
Heading Title
รายละเอียด
- ส่วนประกอบ : กาแฟอาราบิก้าคั่ว 100%
- Ingredient : ARABICA ROASTED COFFEE
- นำหนักสุทธิ 200 กรัม
- Net Weight 200 g.
- เลขที่ อย.50-2-01863-6-0017
วิธีการชงกาแฟของคุณ
ใช้ 1 ช้อนหรือกาแฟบด 10 กรัมต่อกาแฟ 1 แก้ว อัตราส่วนนี้สามารถปรับขึ้นหรือลงได้เล็กน้อยขึ้นอยู่กับรสนิยมของคุณ
- ชงด้วยมือ/ตัวกรอง: ใช้กาแฟบด 1 ช้อน แล้วใส่กระดาษกรองหรือดริปเปอร์ เทน้ำร้อน 150 ซีซี/ถ้วย ให้ทั่วกาแฟบดช้า ๆ รอจนตัวกรองหรือดริปเปอร์ไหลผ่าน
- ชงแบบเฟรนช์เพรส/ก้านกดกาแฟ : อุ่นหม้อด้วยน้ำร้อน ใส่กาแฟบด1 ช้อนลงในหม้อ แล้วเทน้ำร้อน (ประมาณ 96 C) ลงไป คนด้วยช้อนเบาๆ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที จากนั้นลดตะแกรงกรองลงด้านล่างของหม้อ
- ชงด้วยเครื่องชงกาแฟไฟฟ้า : ใส่กาแฟบด 1 ช้อนต่อถ้วยลงในตะกร้ากรองหรือกระดาษกรอง เทน้ำลงในถังเก็บน้ำ เปิดเครื่องและรอให้น้ำหยดลงในถ้วย
คำแนะนำในการจัดเก็บ:
เพื่อให้ของในนั้นคงความสดใหม่และสนุกสนาน ซิปปิดผนึกซ้ำได้ และความสดใหม่ของบรรจุภัณฑ์แบบทางเดียวได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษหลังจากเปิดใช้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ภาชนะอื่นในการเก็บกาแฟ เก็บเมล็ดกาแฟ Dr.Cho ที่ปิดผนึกซ้ำนี้ไว้ในที่แห้งและเย็นเพื่อรักษาความสดและหลังจากเปิดวาล์ว
กาแฟอาราบิก้าคั่ว 100% Dr.Cho
กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของไทย ในอดีตเกษตรกร ชาวสวนกาแฟนิยมเพาะเมล็ดสำหรับใช้ปลูกต่อเนื่องกันมาทั้ง กาแฟอะราบิกา (Coffee arabica) และโรบัสตา (Coffee robusta)
กาแฟอะราบิกา (Arabica) เป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกและบริโภคกันมากที่สุดในโลกมีปริมาณการผลิตถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในตลาดกาแฟโลก แต่จะมีจำนวนเพียง 1 ใน 8 เท่านั้นที่เป็นกาแฟที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่นิยม กาแฟชนิดนี้ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณสารกาแฟชั้นดีมีกลิ่นและรสชาติดีที่สุด
กาแฟ Dr.Cho เป็นหนึ่งในกาแฟที่มีคุณภาพระดับโลก เป็นสายพันธ์อาราบิก้า เพาะปลูกในพื้นที่ปลูกกาแฟบนพื้นที่สูง (ภาคเหนือ) ดอยแม่รวม อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ของประเทศไทย บนยอดเขาที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 900-1,200 เมตร ซึ่งมีความสูงที่ดีที่สุดสำหรับปลูกกาแฟในประเทศไทย เป็นพื้นที่สำหรับปลูกกาแฟธรรมชาติแบบ Organic 100% “และเป็นความสูงจากระดับน้ำทะเลที่พอดีต่อการเพาะปลูกของกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า”
และเพื่อเป็นการรักษาป่าและต้นน้ำตลอดจนระบบนิเวศน์ให้คงอยู่ เมล็ดกาแฟ Dr.Cho จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะคงความเป็นธรรมชาติโดยการปลูกกาแฟในป่า และไม่ได้ใช้สารเคมี ตั้งแต่กระบวนการปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว กาแฟอาราบิก้า โดยต้นกาแฟอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ แสงแดดไม่แรงจนเกินไป เหมาะอย่างยิ่งในการเจริญเติบโต โดยได้รับแร่ธาตุแบบอินทรีย์ธรรมชาติ ทำให้ได้รสชาติกาแฟมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ชูความโดดเด่นในธรรมชาติ ภูมิอากาศและดินสมบูรณ์ มีรสชาติความละมุนแบบฉบับของกาแฟป่าอย่างแท้จริง และเราใส่ใจในทุกรายละเอียดในขั้นตอนต่าง ๆ อย่างพิถีพิถัน การคั่วที่ได้มาตรฐาน ดังนั้น เมล็ดกาแฟ Dr.Cho เราเชื่อว่ากาแฟแต่ละแก้วมีความสดใหม่ และมอบคุณภาพให้กับทุกการจิบของกาแฟ Dr.Cho
การเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ
ผู้เก็บเมล็ดกาแฟเป็นชาวหมู่บ้านที่ร่วมกันปลูกกาแฟ ดูแลรักษา โดยแบ่งพื้นที่ปลูกชัดเจน โดยจะเก็บเฉพาะผลผลิตที่สุกสีแดงเท่านั้น (ซึ่งผลผลิตในหนึ่งช่อจะสุกไม่พร้อมกัน) ทำให้กาแฟที่ได้มีคุณภาพสูง
การแปรรูปกาแฟ Dr.Cho
การผลิตสารกาแฟ (การสีกาแฟ) ทำโดยใช้วิธี คือ การสีสด (แบบแช่น้ำ) มีรายละเอียดดังนี้
วิธีการสี
- – เก็บผลกาแฟสุกมาปอกเปลือกให้หมดภายในวันเดียวกัน จากนั้นนำเมล็ดที่ได้มาแช่น้ำพอท่วม หมักไว้ 24 ชั่วโมงแล้วขยี้ล้างเมือกออกให้หมด หรือใช้เครื่องขัดเมือก
- – เมื่อขัดเมือกหมดแล้วคงเหลือแต่เมล็ดที่มีเปลือกแข็งหุ้มให้นำออกผึ่งแดดให้แห้งสนิท โดยใช้เวลาประมาณ 5 ถึง 7 วัน นำมาเข้าเครื่องกะเทาะเปลือก และปัดฝุ่นผงออกให้หมด
- – คัดเฉพาะเมล็ดแตก เมล็ดดำ หรือกาแฟที่มีเปลือกหุ้มอยู่ออกให้หมด จะได้สารกาแฟ Dr.Cho ตามที่ต้องการ
การคั่วกาแฟ
เครื่องคั่วกาแฟที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ควบคุมคุณภาพได้ตามความต้องการ ในการคั่วแต่ละรสชาติที่ไม่มีเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคั่ว และมีโรงคั่วเป็นของตนเอง ได้รับรองมาตรฐานจากหน่ายงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย พิถีพิถันตั้งแต่การทดสอบการคั่วในแต่ละครั้ง การปรับอุณหภูมิความร้อน ระยะเวลาที่เหมาะสมในแต่ละสูตรการคั่ว ทำให้ได้กลิ่น รสชาติ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร เช่น ชนิดคั่วอ่อน ชนิดคั่วกลาง ชนิดคั่วเข้ม ชนิดพรีเมี่ยมเกรด นอกจากนี้เรายังมีเมล็ดกาแฟอบ รสชาติและกลิ่นแบบพิเศษ เช่น วานิสลา พรีช ลิ้นจี่ เหล้ารัม เป็นต้น ซึ่งเตรียมออกสู่ตลาด เร็ว ๆ นี้

กาแฟ ดร.โช คั่วเข้ม/Dark
เมล็ดกาแฟคั่วเข้ม
เมล็ดกาแฟแบบคั่วเข้มถือว่าเป็นระดับการคั่วยอดนิยม ลักษณะทางกายภาพของการคั่วระดับนี้ คือ มีสีที่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ไล่จนถึงเกือบเป็นสีดำ อาจมีความชื้นจากน้ำมันเคลือบอยู่รอบ ๆ เมล็ด (น้ำมันในส่วนนี้เกิดจากการที่คั่วในเวลานาน กาแฟจึงปล่อยสาร CO2 ออกมา เมื่อ CO2 สัมผัสกับอากาศจึงเกิดเป็นคราบน้ำมันนั่นเอง)
รสชาติที่ได้จากเมล็ดกาแฟคั่วเข้ม
กาแฟที่ได้ระดับคั่วเข้มอย่างเหมาะสมจะมีความหวานที่มากที่สุด และแทบจะไม่เหลือความเปรี้ยวอยู่แล้ว และอาจจะมีความขมเพิ่มขึ้นมา รสชาติมีความเป็น Dark ช็อกโกแลต หรือถั่ว (nutty) ที่ชัดขึ้น และอาจมีกลิ่นควัน (smoke) และมีความเข้มสูง ซึ่งทำให้กาแฟระดับคั่วเข้มเหมาะสำหรับการทำกาแฟเย็นหรือกาแฟนมเนื่องจากกลิ่นและรสชาติของกาแฟจะชัด ไม่โดนรสชาติของนม, น้ำตาล, หรือส่วนประกอบอื่น ๆ กลบจนเกินไป หรือถ้าหากใครชอบความเข้มข้นจะดื่มเป็นเอสเพรสโซ่ หรือ อเมริกาโน่เข้ม ๆ ก็ได้

กาแฟ ดร.โช คั่วกลาง/Medium
เมล็ดกาแฟคั่วกลาง
เมล็ดคั่วกลางนั้นถือว่าเป็นเมล็ดยอดนิยมสำหรับร้านกาแฟสมัยใหม่ นิยมใช้เมล็ดกาแฟคั่วกลางด้วยความที่มีความ Balance สูง เราคั่วจนมีความหวานและเปรี้ยวในลักษณะที่พอดี ๆ กัน ไม่มีความขม (Bitter) ที่มากเกินไป ลักษณะทางกายภาพจะมีสีน้ำตาลที่เข้มกว่าระดับคั่วอ่อนในระดับหนึ่ง ผิวหน้าของกาแฟดูมีความแห้งน้อยกว่าระดับคั่วอ่อน ยังเก็บความเป็นธรรมชาติและคุณลักษณะของเมล็ดกาแฟไว้ได้ดีและมีความหวานที่มากขึ้นจากการ Develop ที่นานกว่าคั่วอ่อน ทำให้เกิดกระบวน Caramelization ที่เปลี่ยนแป้งและโปรตีนในเมล็ดกาแฟให้กลายเป็นน้ำตาลได้มากขึ้น ระดับการคั่วกลางนี้อาจเรียกว่า City Roast หรือถ้าพัฒนามากไปกว่านั้นอาจเรียกได้ว่า Full City เหมาะสำหรับการชงแบบเอสเพรสโซ่หรือจะใช้ในการชงแบบอื่นเช่น Moka Pot, Aeropress, Syphon, French Press หรือแม้กระทั่งการดริปก็ยังสามารถทำได้
รสชาติที่ได้จากเมล็ดกาแฟคั่วกลาง
รสชาติที่ได้จากกาแฟคั่วกลางจะมีความโดดเด่นในเรื่องของความ Balance ในรสชาติ มีทั้งความเปรี้ยวที่เป็นธรรมชาติของเมล็ดกาแฟและได้รับความหวานจากกระบวนการ caramelization ที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังไม่เกิดความขมที่มากเกินไป มักจะให้ลักษณะของรสชาติไปในทางที่เป็นคุณลักษณะของเมล็ดกาแฟแต่ละประเภทนั้น ๆ แต่ได้ความเข้มและความหวานที่มากขึ้นกว่าการคั่วแบบอ่อน

กาแฟ ดร.โช คั่วกลาง/Medium
เมล็ดกาแฟคั่วอ่อน
เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนมีลักษณะทางกายภาพที่เด่นคือมีสีที่เป็นสีน้ำตาลอ่อน ดูมีความแห้ง (ยังไม่มีน้ำมันออกมาเคลือบผิวเมล็ดกาแฟ) บางครั้งอาจจะยังเห็นผิวหรือเปลือกของกาแฟ (Silver Skin) ที่เป็นเศษเหลืออยู่ได้บ้าง ระดับการคั่วอ่อนถือว่าเป็นการคั่วที่เก็บความเป็นธรรมชาติของเมล็ดกาแฟได้สูงที่สุด แสดงความเป็นลักษณะของกาแฟแต่ละประเภทได้ดี ซึ่งกาแฟที่ดีจึงนิยมคั่วในระดับค่อนข้างอ่อนเพื่อแสดงศักยภาพของกาแฟนั้นได้อย่างดี มีรสที่เด่นไปทางเปรี้ยว ความขมน้อย เมล็ดคั่วอ่อนเหมาะกับการชงด้วยวิธีแบบ Slow Bar เช่น การ Drip แล้วดื่มเป็นกาแฟดำเพื่อที่จะดึงคุณลักษณะของเมล็ดนั้น ๆ ออกมาได้ชัดเจน
รสชาติที่ได้จากเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน
เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนมักจะมีรสชาติเปรี้ยว (High Acidity) และมีลักษณะที่ตามมาเป็นลักษณะเฉพาะของเมล็ดกาแฟนั้น ๆ ครับ เช่นอาจจะมีความคล้ายดอกไม้ (Floral like) หรือ การคล้ายผลไม้ (Fruity like) ซึ่งรสชาติแบบนี้มักจะพบเจอได้ในกาแฟจากทวีปแอฟริกา เช่น Ethiopia หรืออาจจะเป็นโทนน้ำตาลทรายแดง คาราเมล ช็อกโกแลต ซึ่งมักจะพบได้จากกาแฟแถบบราซิล หรือกาแฟแถบภาคเหนือของไทยก็พบรสชาติประมาณนี้ได้บ่อยครับ ซึ่งถ้าเป็นกาแฟที่มีการเพาะปลูกและการคั่วอย่างดี พิถีพิถัน จะได้รสชาติที่มีความสะอาดสูง มีความเปรี้ยวที่พึงประสงค์